หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

PerfSpot.com

www.perfspot.com
patsiri lack of this more than a hundred years old in rama 5 preriod

วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554

AddThis - The #1 Bookmarking & Sharing Service

AddThis - The #1 Bookmarking & Sharing Service

for good health bu lactobaculuss

โปรไบโอติก คือ อาหารเสริมซึ่งเป็น จุลินทรีย์ที่มีชีวิต สามารถก่อประโยชน์ต่อร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่มันอาศัยอยู่ โดยการปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย




แบคทีเรียที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ แบคทีเรียที่ผลิตกรดแลคติกได้ คือ โปรไบโอติก นั่นเอง ได้แก่ แลคโตบาซิลลัส อะซิโดฟิลลัส ( Lactobacillus acidophilus )



แบคทีเรียที่ดีอาศัยอยู่ในลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ตั้งแต่เราเกิดเป็นทารก ทำหน้าที่ช่วยย่อยอาหารและผลิตสารอาหารที่ดีมีประโยชน์ ได้แก่ กรดอะมิโน



กรดแลคติก พลังงาน วิตามินเค วิตามินบี และสารปฏิชีวนะธรรมชาติหลายชนิด ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้



1. กรดแลคติกที่แบคทีเรียผลิตออกมา จะทำให้สภาวะภายในลำไส้มีความเป็นกรดมากพอที่จะยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อโรค



2. ทำให้ระบบขับถ่ายดี ไม่เกิดการหมักหมมของของเสียในร่างกาย เป็นการลดอัตราเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งตับ



3. วิตามินบีที่ได้ จะทำให้เซลล์ในระบบภูมิต้านทานทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และยังทำให้มีการผลิตเม็ดเลือดแดงดีขึ้นด้วย



4. ช่วยยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง และกำจัดสารก่อมะเร็งบางชนิด



5. แลคติกแอซิดแบคทีเรีย ยังช่วยลดระดับน้ำตาลและคลอเรสเตอรอลในเลือดด้วย



6. ผลิตเอนไซม์แลคเตส ซึ่งช่วยย่อยน้ำตาลในนม ทำให้เราไม่มีอาการท้องอืดจากการดื่มนม และช่วยให้การดูดซึมแคลเซี่ยมดีขึ้น
http://www.patsiri.com/

วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554

Patsiri.com เว็บเพื่อสุขภาพของคุณ Pinkherbal หน้าแรก

Patsiri.com เว็บเพื่อสุขภาพของคุณ Pinkherbal หน้าแรก

Probiotic เป็นยังไงและทดสอบเชื้อชนิดนี้ยังไง
โพสต์เมื่อ: 20:15 วันที่ 23 ก.ค. 2549 ชมแล้ว: 40,487 ตอบแล้ว: 27 วิชาการ >> คาเฟ่ >> ทั่วไป
อยากถามผู้รู้ทั้งหลายว่า เชื้อ Probiotic นี้มีลักษณะอย่างไรและมีลักษณะเด่นของมันคืออะไร แล้วจะทำการทดสอบเชื้อชนิดนี้ได้อย่างไรว่าเป็น Probiotic ชนิดไหน สุดท้ายนี้เราจะรู้ไงว่าเชื้อที่เราสนใจนั้นเป็นเชื้อ Probiotic ต้องมีขั้นตอนอย่างไรในการทดสอบปล. ขอบคุณที่ตอบคำถามข้าพเจ้า
Pingagent ร่วมแบ่งปัน1 ครั้ง - ดาว 152 ดวง - โหวตเพิ่มดาว
จำนวน 24 ความเห็น, หน้าที่ -1-
ความเห็นเพิ่มเติมที่ 1 3 ก.ย. 2549 (13:28) 2.1 โพรไบโอติก (Probiotic)คำว่า โพรไบโอติก ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในรายงานการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของ Lilly และ Stillwell ในปี ค.ศ. 1965 เพื่อกล่าวถึงสารที่จุลินทรีย์ชนิดหนึ่งขับออกมา และช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์อีกชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นการทำงานที่ตรงข้ามกับการทำงานของยาปฏิชีวนะ (antibiotic)ที่จะทำลายจุลินทรีย์เกือบทุกชนิด ในปี ค.ศ. 1974 Parker ได้ให้คำจำกัดความว่า โพรไบโอติก คือสิ่งมีชีวิตและสารเคมีที่มีผลต่อสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ คำจำกัดความล่าสุด ซึ่งเสนอโดย Fuller ในปี พ.ศ. 2532 อธิบายคำว่า โพรไบโอติก คืออาหารเสริมซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิต สามารถก่อประโยชน์ต่อร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่มันอาศัยอยู่ โดยการปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย จนในที่สุดปี ค.ศ. 1992 Havenaar และ Veid ได้ขยายคำจำกัดความของ โพรไบโอติกว่า จะต้องประกอบด้วย จุลินทรีย์ที่มีชีวิตซึ่งอาจมีเพียงชนิดเดียว หรือเป็นส่วนผสมของจุลินทรีย์หลายชนิด ที่สามารถไปปรับปรุงคุณสมบัติของจุลินทรีย์ดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของสัตว์นั้น โดยจุลิน ทรีย์เหล่านี้อาจอยู่ในรูปของเซลล์แห้งจากขบวนการระเหิดแห้ง (freeze-dried cells) หรืออยู่ในรูปผลิตภัณฑ์หมัก ซึ่งนอกจากไปส่งเสริมการเจริญเติบโตแล้ว ยังทำให้คนและสัตว์มีสุขภาพดีขึ้นด้วย และโพรไบโอติก ไม่ใช่จำกัดการใช้เฉพาะในทางเดินอาหารเท่านั้น ยังอาจไปมีผลต่อระบบอื่นๆ เช่น ทางเดินหายใจส่วนต้น หรือระบบปัสสาวะ และระบบสืบพันธุ์2.1.1 ชนิดของจุลินทรีย์โพรไบโอติก2.1.1.1 ลักษณะของเชื้อ Lactobacillus Lactobacilli เป็นแบคทีเรียแกรมบวก ไม่สร้างสปอร์ มีลักษณะเป็นแท่งสั้นๆ เป็นพวก แฟคัลเตตีฟแอนแอโรบ เป็นจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของมนุษย์และสัตว์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แยกได้จากทางเดินอาหาร ในลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้ยังพบบริเวณช่องคลอดอีกด้วย เจริญได้ในสภาวะกรด Lactobacilli สามารถใช้น้ำตาลซึ่งเป็นแหล่งคาร์บอนและผลิตกรดแลคติกได้มากกว่าร้อยละ 85 ในการหมักแบบโฮโมเฟอร์เมนเททีฟ หรือได้กรดแลคติกร้อยละ50 คาร์บอนไดออกไซด์ เอทานอล และกรดแอซีติก ในการหมักแบบเฮเทอโรเฟอร์เมนเททีฟ เจริญได้ที่พีเอช 4.0-4.5 อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญคือ 30-40 องศาเซลเซียสอย่างไรก็ตามไม่ใช่ทั้งหมดของ Lactobacillus ทุกสายพันธุ์ที่จะมีประสิทธิภาพในการต่อต้านจุลินทรีย์ก่อโรคในลำไส้ มีการทดลองใช้อาสาสมัครที่มีสุขภาพแข็งแรง 23 คน รับประทานผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกที่มี L. acidophilus และ L. bulgaricus แล้วลองให้ได้รับเชื้อ E. coli ชนิดที่สร้างเอ็นเทอโรท็อกซิน พบว่าไม่มีความแตกต่างกันทั้งในอัตราการเกิดโรค ระยะฟักตัวและระยะเวลาในการเกิดโรคเมื่อเปรียบเทียบกับชุดควบคุมที่ไม่ได้รับโพรไบโอติก Saccharomyces boularddii ถูกนำมาใช้ในการทดลองเกี่ยวกับการป้องกันและรักษาโรคท้องร่วงที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อ C . diffcile ใช้ผู้ป่วยจำนวนทั้งหมด 180 คน ในการทดลอง เป็นกลุ่มควบคุม 20 คน พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับโพรไบโอติกร้อยละ 9.5 มีอาการท้องเสีย เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมที่มีอาการร้อยละ 22 ดังนั้น การใช้โพรไบโอติกช่วยลดการเกิดอาการท้องร่วงที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อ C. difficile ถึงแม้ว่า S. boulardii จะไม่สามารถป้องกันเชื้อก่อโรคได้ก็ตาม2.1.1.2 ลักษณะของเชื้อ BifidobacteriaBifidobacteria เป็นแบคทีเรียแกรมบวก ไม่ต้องการอากาศอย่างแท้จริง มีรูปร่างเป็นแท่งคล้ายตัว Y และไม่ผลิตก๊าซ ถูกค้นพบครั้งแรกโดย Tissier ในปี ค.ศ. 1900 ซึ่งแยกได้จากอุจจาระของเด็กทารก และตั้งชื่อว่า Bacillus bifidus และจัดเข้าสู่จีนัส Bifidobacterium ในปี ค.ศ. 1920 (Orla-Jensen, 1924) คุณสมบัติที่สำคัญคือ สามารถหมักน้ำตาลเฮกโซสได้เป็นกรดแลคติกโดยผ่านวิถีฟอสโฟคีโตเลท (phosphoketolase pathway) เมื่ออยู่ในสภาวะไม่เหมาะสมต่อการเจริญก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเซลล์ให้มีกิ่งก้านมากมายในอาหารที่ขาด เบต้า-เมทิล-ดี-กลูโคซามีน (b-methyl-D-glucosamine) เซลล์ที่มีลักษณะเป็นสองส่วนเท่ากันจะเกิดรูปร่างที่แตกแขนงมากขึ้น (Glick และคณะ, 1960) และเมื่อมีการเติมกรดอะมิโนเพียงเล็กน้อยในอาหารเลี้ยงเชื้อ เซลล์ที่เป็นกิ่งก้านมากมายจะเปลี่ยนเป็นแท่งโค้ง bifidobacteria นี้ พบได้ในลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ และช่องคลอด ผลิตวิตามินบี อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญคือ 37-41 องศาเซลเซียส พีเอชที่เหมาะสมคือ 5.5-7.0 ผลิตกรดแอซิติก กรดแลคติก ทำให้เพิ่มความเป็นกรดในลำไส้ การทดสอบคุณสมบัติการเป็นโพรไบโอติกในห้องปฏิบัติการ ความสามารถในการทนกรดเบส การทดสอบความสามารถในการทนกรดเบสทำได้โดย เลี้ยงเชื้อแบคทีเรียแลคติกในอาหารเหลว MRS ที่มีปริมาตร 6 มิลลิลิตร ปรับพีเอช ให้ได้เท่ากับ 3, 4, 5, 6 และ 8 ตามลำดับ ด้วย 1N HCl และ 1N NaOH ทำ 3 ซ้ำ บ่มเชื้อที่ 37 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 24 ชั่วโมง จากนั้นตรวจดูการเจริญของเชื้อโดยการวัดค่าการดูดกลืนแสงด้วยเครื่องวัดการดูดกลืนแสง (spectrophotometer) ที่มีความยาวคลื่นแสง 580 นาโนเมตร (Toit และคณะ., 1998) ความสามารถในการทนเกลือน้ำดี การทดสอบความสามารถในการทนเกลือน้ำดีทำได้โดย นำเชื้อแบคทีเรียที่มีความสามารถทนกรดมา streak ลงบนอาหานแข็ง MRS ที่มีความเข้มข้นของเกลือน้ำดีร้อยละ 0.30 (w/v) oxgall (Difco) โดยการ streak plate ละ 4 เชื้อ ทำ 3 ซ้ำ บ่มไว้ที่ 37 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 48 ชั่วโมง แล้วตรวจดูการเจริญของเชื้อบนผิวหน้าอาหาร (Toit และคณะ , 1998) ความสามารถในการเกาะติด การทดสอบความสามารถในเกาะติดทำได้โดย นำเชื้อแบคทีเรียแลคติกที่ทนเกลือน้ำดีมาเลี้ยงในอาหารเหลว MRS ปริมาตร 3 มิลลิลิตร จนมีอายุครบ 18 ชั่วโมง แยกเซลล์แบคทีเรียโดยเหวี่ยงด้วยความเร็ว 15,000 g เป็นเวลา 10 นาที จากนั้นเจือจางเชื้อด้วย Phosphate buffered saline (PBS) พีเอช 7.1 ในไมโครเพลท แล้วเติม pig erythrocyte suspension (SIGMA) ที่มีความเข้มข้นร้อยละ 2 ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง 1 ชั่วโมง สังเกตการเกาะกลุ่มด้วยตาเปล่า ทำ 3ซำความสามารถในการเจริญในสภาวะที่มี และไม่มีออกซิเจน การทดสอบความสามารถในการเจริญในสภาวะที่มี และไม่มีออกซิเจนทำได้โดย นำแบคทีเรียแลคติกที่มีความสามารถในการเกาะติดมาเลี้ยงในอาหารเหลว MRS ปริมาตร 3 มิลลิลิตร จนมีอายุครบ 18 ชั่วโมง ถ่ายเชื้อแบคทีเรียแลคติกลงในอาหารเหลว MRS เชื้อละ 6 หลอด แบ่งเชื้อเป็น 2 ชุด คือ ชุดที่ 1 ใส่ใน anaerobic jar แล้วนำไปบ่มไว้ที่ 37 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ชุดที่ 2 นำไปบ่มไว้ที่ 37 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 24 ชั่วโมงดูการเจริญของเชื้อโดยการวัดค่าการดูดกลืนแสงด้วยเครื่อง spectrophotometer ที่มีความยาวคลื่นแสง 580 นาโนเมตร และเปรียบเทียบความสามารถของเชื้อในการเจริญทั้งสองสภาวะ โดยวิเคราะห์ผลทางสถิติด้วยวิธี Duncan’s New Multiple Range Test ความสามารถในการย่อยโปรตีน ไขมัน และแป้ง การทดสอบการย่อยโปรตีน การทดสอบความสามารถในการย่อยโปรตีนทำได้โดย นำเชื้อแบคทีเรียแลคติกที่สามารถเจริญทั้งในสภาวะที่มีและไม่มีออกซิเจนมาเลี้ยงในอาหารเหลว MRS จนมีอายุครบ 18 ชั่วโมง มา streak บนอาหารเลี้ยงเชื้อ Milk agar ทำ 3 ซ้ำ นำไปบ่มไว้ที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 48-72 ชั่วโมง ถ้ามีการย่อยโปรตีนจะเกิดวงใสรอบ ๆ โคโลนีของเชื้อ ( Michael และ Pelezar, 1995 )การทดสอบการย่อยไขมัน การทดสอบความสามารถในการย่อยไขมันทำได้โดย นำเชื้อแบคทีเรีย แลคติกที่สามารถเจริญทั้งในสภาวะที่มีและไม่มีออกซิเจนมาเลี้ยงในอาหารเหลว MRS จนมีอายุ 18 ชั่วโมง มา streak บนอาหารเลี้ยงเชื้อที่เติม tributyrin ความเข้มข้นร้อยละ 1 ทำ 3 ซ้ำแล้วนำไปบ่มไว้ที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 48-72 ชั่วโมง ถ้ามีการใช้ไขมันจะเกิดวงใสรอบ ๆ โคโลนีของเชื้อ ( Michael และ Pelezar, 1995 )การทดสอบการย่อยแป้ง การทดสอบความสามารถในการย่อยแป้งทำได้โดย นำเชื้อแบคทีเรีย แลคติกที่สามารถเจริญทั้งในสภาวะที่มีและไม่มีออกซิเจนมาเลี้ยงในอาหารเหลว MRS จนมีอายุ 18 ชั่วโมง มา streak บนอาหารเลี้ยงเชื้อ Starch agar ทำ 3 ซ้ำนำไปบ่มไว้ที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 48-72 ชั่วโมง ทดสอบการย่อยแป้งโดยการหยดสารละลายไอโอดีนลงบนอาหารเลี้ยงเชื้อ ถ้ามีการย่อยแป้งสีของอาหารเลี้ยงเชื้อจะไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน ( Michael และ Pelezar, 1995 )

Patsiri.com เว็บเพื่อสุขภาพของคุณ Pinkherbal หน้าแรก

Patsiri.com เว็บเพื่อสุขภาพของคุณ Pinkherbal หน้าแรก
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี ทรงปรารภภิกษุลูกศิษย์ของพระสารีบุตรผู้ถามถึงวิธีการได้ลาภสักการะด้วยการ หลอกลวง ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นอาจารย์ทิศาปาโมกข์ มีลูกศิษย์อยู่ประมาณ ๕๐๐ คน ตั้งสำนักเรียนอยู่ในเมืองแห่งหนึ่ง วันหนึ่งมีลูกศิษย์คนหนึ่งเข้าไปถามถึงวิธีได้เงินทองว่า ” อาจารย์ครับ ผมเรียนใกล้จะจบแล้ว ผมอยากทราบว่าชาวโลกเขา มีวิธีการหลอกลวงให้ได้เงินทองโดยไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยอย่างไรครับ ” อาจารย์ตอบว่า ” ฟังนะเธอ ชาวโลกเขามีวิธีการหลอกลวงให้ได้เงินทองโดยไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเลย อยู่ ๔ วิธี คือ“ไม่ใช่คนบ้าทำเป็นเหมือนคนบ้า ไม่ใช่คนพูดส่อเสียดทำเป็นเหมือนคนพูดส่อเสียดไม่ใช่นักฟ้อนรำทำเป็นเหมือนนักฟ้อนรำ ไม่ใช่คนพูดพล่อยทำเป็นเหมือนคนพูดพล่อยย่อมได้เงินทองจากคนผู้หลงงมงาย นี่เป็นคำสอนสำหรับเธอ ”” มันมีความหมายว่าอย่างไรครับ อาจารย์ช่วยอธิบายให้ทราบด้วยครับ ” ลูกศิษย์ซักไซ้ต่อ อาจารย์จึงอธิบายให้ฟังว่า ” คนบ้า ผู้คนมักจะไม่ถือโทษโกรธเคือง เขาจะหยิบฉวยอะไรไปก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อาหาร ขนม หรือเงินทอง คนที่ไม่มีหิริโอตตัปปะ ไม่กลัวนรก มีความโกรธ ถูกตัณหาครอบงำ ย่อมทำกรรมชั่วทุกอย่าง ได้เช่นกันกับคนบ้า เขาจะแสวงหาเงินทองมาด้วยวิธีการแบบคนบ้าคนพูดส่อเสียด ย่อมสามารถพูดคำไม่เป็นจริงให้เป็นจริงได้ สามารถใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นให้เสียหายได้ ฉะนั้น ผู้ต้องการเงินทองก็ต้องรู้จักพูดส่อเสียดนักฟ้อนรำ ย่อมไม่มีหิริโอตตัปปะ ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ทรัพย์มา ฉะนั้น ผู้ต้องการเงินทองก็ต้องเป็นเหมือนนักฟ้อนรำคนพูดพล่อย ย่อมทำตัวเป็นคนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างว่าใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ผู้คนกลัวคนผู้นี้จะประจานจึงมอบทรัพย์ให้เขาเพื่อปิดปาก ทรัพย์จำนวนมากจึงเกิดขึ้นแก่เขา ฉะนั้น ผู้ต้องการเงินทอง จึงต้องรู้จักเป็นคนพูดพล่อย ”ลูกศิษย์ได้ฟังแล้วจึงพูดตำหนิวิธีการหลอกลวงให้ได้ลาภมาโดยไม่คำนึงถึง คุณธรรมว่า ” อาจารย์ครับ ถ้าเป้นเช่นนี้การออกบวชจะประเสริฐกว่าการแสวงหาลาภโดยไม่มีคุณธรรมเลย ” ว่าแล้วจึงตัดสินใจออกบวชเป็นฤาษี บำเพ็ญเพียรอยู่ในป่าจนตราบเท่าชีวิตนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าวิธีการหลอกลวงของผู้คนในโลกนี้มีอยู่ ๔ วิธีหลัก ให้พึงระวังเข้าไว้

วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2554

proreducer1


สุขภาพดีปีใหม่ มีฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ว่าด้วยธรรมของฆราวาส จะทำมาค้าขึ้น เรียนหนังสือก็เก่ง ค้าขายก็รวย ทำงาน บริษัท ห้างร้าน รัฐวิสาหกิจ ก็จะฟิตเหมาะดี เชิญไปที่ www.patsiri.com

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

นิทานชาดก - ค้นหาด้วย Google

นิทานชาดก - ค้นหาด้วย Google
สะดมชาวบ้านแล้วหนีไป ชาวบ้านจึงพากันหาโจรจนมาถึงหมู่บ้านชายแดนแห่งหนึ่ง พบชาย ๓ คนกำลังไถนาอยู่ จึงคิดว่าเป็นโจรปลอมเป็นชาวนา จึงจับกุมทุบตีแล้วคุมตัวมาถวายพระเจ้าโกศล …..ต่อมา ได้มีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง เดินร้องให้รำพันรอบๆ พระราชวัง ขอพระราชทานเครื่องนุ่งห่ม ความทราบถึงพระเจ้าโกศล พระองค์มีรับสั่งให้นำผ้าสาฎกไปมอบให้แก่นาง แต่นางกลับยิ่งร้องไห้หนักขึ้นและกล่าว “ขอพระราชทานเครื่องนุ่งห่ม คือสามี” …..ราชบุรุษจึงนำนางไปเข้าเฝ้า พระเจ้าโกศลได้ทรงซักถาม นางจึงว่า “สามีชื่อว่าเครื่องนุ่งห่มของหญิง เมื่อไม่มีสามี แม้จะนุ่งห่มผ้าราคาตั้ง ๑,๐๐๐ กษาปณ์ ก็ชื่อว่าหญิงเปลือยอยู่นั่นเอง แม่น้ำไม่มีน้ำ ชื่อว่าเปลือย แว่นแคว้นไม่มีราชา ชื่อว่าเปลือย หญิงปราศจากสามี ถึงจะมีพี่น้องตั้ง ๑๐ คน ก็ชื่อว่าเปลือย” …..พระเจ้าโกศลเกิดเลื่อมใสจึงตรัสคืนชายหนึ่งคนให้ นางจึงขอพี่ชายและให้เหตุผลว่า ถ้ายังมีชีวิตย่อมหาสามีใหม่และมีบุตรใหม่ได้ แต่บิดามารดาได้สิ้นชีวิตไปแล้ว ไม่อาจจะมีพี่ชายได้อีก พระเจ้าโกศลเห็นความฉลาดของนางจึงโปรดไว้ชีวิตชายทั้งสาม …..เรื่องดังกล่าวเลื่องลือแม้กระทั่งในหมู่ภิกษุ ความทราบถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงระลึกชาติหนหลังด้วยบุพเพนิวาสานุสติญาณ แล้วตรัสเล่า อุจฉังคชาดก ——————————————– :: ข้อคิดจากชาดก :: ๑. ผู้ที่มีหน้าที่ปราบปราม นำคนผิดมาลงโทษ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ อย่าจับคนด้วยเพียงการคาดคะเน เพราะการลงโทษคนบริสุทธิ์เป็นบาปอย่างยิ่ง การปล่อยคนผิดไป ๑๐๐ คน ยังดีกว่าการลงโทษคนบริสุทธิ์เพียงคนเดียว …..๒. คนเราควรหาโอกาส “ตอบแทนคุณ” ของผู้ที่มีพระคุณต่อเราอยู่เสมอ …..๓. ผู้ที่รู้บุญคุณและตอบแทนบุญคุณ ย่อมไม่ถึงความตกต่ำอย่างแน่นอน …..๔. ผู้ที่ตั้งมั่นอยู่ในหลักธรรม แม้ความตายมาถึงตัว ก็มีสติตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว สามารถเผชิญความตายโดยอาจหาญ ย่อมเป็นผู้ที่ “ประสบสุขได้แม้ในยามทุกข์” …..๕. พี่น้องกันนั้น “ฆ่ากันไม่ตาย ขายกันไม่หมด” แม้จะมีเรื่องผิดใจกันอย่างไร แต่เมื่อมีเรื่องเดือดร้อน ย่อมพึ่งพากันได้
www.patsiri.com

<a href="http://www.patssiri.com">www.patssiri.com</a>

<a href="http://www.patsiri.com">www.patsiri.com</a> by patsiri longsiri

pinklady for health and plug doctor save gas

อ้างถึง: นิทานชาดก - ค้นหาด้วย Google (ดูบน Google Sidewiki)

<a href="http://www.patsiri.com">www.patsiri.com</a>

pinklady

อ้างถึง: Blogger: Dashboard (ดูบน Google Sidewiki)

<a href="http://www.postthailand.gagto.com">www.postthailand.gagto.com</a>

sawaeng power b y <a href="http://www.patsiri.com">www.patsiri.com</a>

probiotic herbals juice for good health and beauty skin care at www.patsiri.com

อ้างถึง: นิทานชาดก » นิทานชาดก (ดูบน Google Sidewiki)

<a href="http://www.patsiri.com">www.patsiri.com</a>

<a href="http://www.patsiri.com">www.patsiri.com</a>

<a href="http://www.patsiri.com">www.patsiri.com</a>

<a href="http://www.patsiri.com">www.patsiri.com</a>

<a href="http://www.patsiri.com">www.patsiri.com</a>

เกิดมาชาติหนึ่งนั้นอายุสั้นนักเมื่อเทียบกับเทวดาระดับต้นก้ 36000 ปีมนุษย์ เพราะฉนั้นอายุคนก็เมื่อเทียบกับเทวดาก็ เท่ากับมด หรือ ยุง หมัดหมา เห็นจะได้ จงรีบทำดี มีศีลห้าไว้ประจำ จิต ประจำ วาจา และ กายให้ตลอดชีวิต มีความ กตัญญู ต่อผู้มีพระคุณ เช่นพ่อแม่ ครูบาอาจารย์
ภัทรศิริแสวง หลงศิริ

อ้างถึง: นิทานชาดก (ดูบน Google Sidewiki)

วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554

<a href="http://postthailand.gagto.com">postthailand.gagto.com</a>

more and more usssefull for coffee slender for health,reduce your weight. see more detailed at www.patsiri.com

อ้างถึง: http://www.flickr.com/photos/31439564@N04/show/with/4906158710 (ดูบน Google Sidewiki)

<a href="http://www.patsiri.com">www.patsiri.com</a>

probiotic coffee slender herb ,see more at www.patsiri.com

อ้างถึง: coffee | Flickr - Photo Sharing! (ดูบน Google Sidewiki)